วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2558

CUT : OS | SWIMMING POOL #DOUBLEB #JUNHWAN


ร่างโปร่งโถมทับร่างบางจนราบลงไปกับเก้าอี้เหล็กเย็นเฉียบที่วางอยู่ตรงกลางระหว่างตู้ล็อกเกอร์สองฝั่ง ฮันบินเองก็เงยหน้ารับสัมผัสที่อีกคนมอบให้อย่างสเน่ห์หา กางขาออกเชื้อเชิญโดยอัตโนมัติ

ปัง ปัง ปัง!! 

เสียงทุบประตูไม่อาจห้ามแรงราคะนี้ได้ บ๊อบบี้เพียงแค่แสยะยิ้ม ก่อนจะร่นกางเกงว่ายน้ำของร่างบางลง แม้จะยากกว่าปกติสักนิดเพราะมันเปียกและรัดแน่นแต่เขาก็ทำมันได้อย่างรวดเร็วจริงๆ 
ริมฝีปากเข้าครอบครองอย่างคุ้นเคย ฮันบินบิดเร้าด้วยความเสียวซ่านยามจีวอนขยับขึ้นลง ลิ้นเรียวตวัดไปมาสร้างความรู้สึกพิศไหมหาสิ่งใดเปรียบจนร่างบางต้องเหยียดขาออกแล้วใช้เท้าจิกพื้นไว้ 
"จีวอน อ๊ะ..." ครางชื่อคนรักไม่เป็นภาษาเพราะใกล้ถึงฝั่งฝัน 
ทว่าบ๊อบบี้หยุดการกระทำกระทันหัน ดันขาฮันบินให้ตั้งขึ้นมาเหมือนเดิมก่อนจะสอดแกนกลางลำตัวของตัวเองเข้าไปจนเกือบมิดโดยไม่มีการเบิกทางก่อน
"โอ้ยยย" ฮันบินร้องเสียงหลง ใบหน้าคมเหยเกด้วยความเจ็บปวด เขายอมรับว่ารู้สึกสุขสมแต่ก็ไม่ขนาดที่จะไม่สะท้านเลย 
จีวอนขยับเข้าออกช้าๆเพื่อให้อีกฝ่ายค่อยๆปรับตัวได้ ก่อนจะค่อยๆเร่งความเร็วขึ้นจนฮันบินร้องไม่ทัน
ริมฝีปากบางขบเม้มแน่น รู้สึกร้อนระอุทั้งๆที่ข้างนอกหิมะตก สองแขนยันตัวออกห่างจากร่างสูงที่เอาแต่ไม่ใส่ไม่ยั้ง 

บ๊อบบี้เองก็ยอมเพราะรู้ว่าฮันบินจะทำอะไรต่อไป 

ร่างบางผลักจีวอนให้ลงไปนอนกับพื้น ย่อตัวลงนั่งยองๆ ให้อวัยวะที่กำลังชูชันของอีกฝ่ายเข้ามาในลำตัวอย่างรู้งานขยับขึ้นลงเป็นจังหวะ ไหล่แคบสั่นกระเส่าตามความลึกยามตนเองย่อตัวลงจนสุด 

จุนฮเวกับจินฮวานพากันเข้ามาทางประตูอีกฝั่ง มันเป็นส่วนของห้องน้ำซึ่งอยู่เชื่อมกับห้องแต่งตัวนั่นแหละ 
เสียงภารกิจอะไรๆของบ๊อบบี้และฮันบินทำให้พวกเขาหยุดก้าวเดินของตนเองก่อนจะไปถึงล็อกเกอร์ จินฮวานนิ่งงัน ก้มหน้าลงแล้วยกมือขึ้นมาปิดหู ใบหน้าหวานแดงแจ๋อย่างกับลูกมะเขือเทศยังไงยังงั้น

จุนฮเวที่มองอยู่ก็ได้แต่ยิ้มออกมา แล้วความรู้สึกที่ควรจะเก็บไว้ก่อนก็ดันก่อตัวขึ้นมาบ้างจนได้

ไม่รู้ว่าเพราะเสียงครางจากห้องข้างๆ เพราะอากาศหนาวๆหรือเพราะความน่ารักของจินฮวานกันแน่ที่ทำให้เขาเป็นอย่างนี้ แต่ถ้าจะทนไว้ก่อน

มันก็ยังไงๆอยู่นะ...

ร่างสูงเข้าไปหาคนตัวเล็กโดยการถอยหลังไปเรื่อยๆจนแผ่นหลังของจินฮวานติดกับกำแพง มือหนาเชยคางขึ้นเพื่อให้เห็นใบหน้าหวานที่ตนเองหลงไหลยิ่งกว่าสิ่งใดชัดๆ ก่อนจะเริ่มพรมจูบตั้งแต่หน้าผาก ไล่ลงมาจนถึงเปลือกตา จมูก แล้วจบลงที่ริมฝีปาก
จุนฮเวไม่รู้ว่าจินฮวานจูบเก่งไหม จริงๆคือเขาไม่รู้แบบไหนที่เรียกว่าดี อาจเพราะตั้งแต่เกิดมา18ปีก็เคยประกบปากกับคนตัวเล็กคนนี้แค่คนเดียว และเขาก็พอใจที่มันเป็นอย่างนั้น 
สองมือเริ่มล่วงล้ำเข้าไปในอนาเขตหวงห้ามของคนตัวเล็ก เขาสัมผัสมันอย่างแผ่วเบาพลางรูดขึ้นรูดลงช้าๆโดยที่ไม่ปล่อยโอกาสให้ฝ่ายถูกกระทำได้ทักท้วงบ้างเลย
จินฮวานจูบต่อไม่ไหวแล้ว ริมฝีปากอ้าออกกว้าง ครางในลำคอเพราะไม่อาจหักห้ามใจได้ มวลในท้องลอยตีกันจนสองขาหมดเรี่ยวแรงจนไม่อาจทนยืนด้วยแรงของตนเองได้ 
ร่างสูงกระชากอาภรณ์ชิ้นน้อยลงอย่างไม่ลังเลเมื่อเห็นปฏิกริยาของอีกฝ่าย จับคนตัวเล็กให้หันหลังเข้ากับกำแพง จากนั้นจึงค่อยๆสอดนิ้วเข้าไปทีละนิ้วเพื่อเบิกทาง
"อุ่ก.." จินฮวานร้องด้วยความจุกเมื่อจุนฮเวลามปามใส่เข้ามาตั้งสามนิ้ว ส่วนจุนฮเวก็พรมจูบต้นคอระหงเพื่อคลายความเกร็งและความเจ็บให้ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพร้อมแล้วจึงค่อยๆแทนที่นิ้วด้วยอวัยวะสำคัญแทน
จินฮวานเพิ่งรู้วันนี้ว่าการยืนหันหลังแล้วค่อยๆให้แกนกายของอีกคนเข้ามาทีละนิดมันรู้สึกดีขนาดนี้ ตอนที่จุนฮเวเข้ามาจนมิดเสียงหวานถึงกับแหบพร่าไปเลย มือบางจับของตัวเองไว้บ้าง ไม่วายรูดขึ้นรูดลงตามจังหวะการเข้าออก ย่อเข้าลงเล็กน้อยให้ช่องทางกว้างมากขึ้น เงยหน้าไปหาร่างสูงเพื่อรับจุมพิตจากด้านหลัง


กิจกรรมรักของทั้งสองคู่ดำเนินไปอย่างเร้าร้อน เสียงเนื้อกระทบกันดังสลับกับเสียงครางอื้ออึงโดยที่ไม่มีใครยอมใครและไม่มีความละอายใดๆหลงเหลือ กระทั่งทุกอย่างเสร็จสิ้นลง พร้อมกับความรู้สึกปลดปล่อยและผ่อนคลาย

จีวอนช้อนตัวฮันบินที่ฟุบลงหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนขึ้น เดินเข้ามาในส่วนของห้องน้ำที่มีจุนฮเวและจินฮวานอยู่ เขามองสบตากับน้องชายคนสนิทซึ่งกำลังอุ้มคนรักไว้เช่นกัน ยิ้มให้กันอย่างมีเลศนัยจากนั้นต่างคนก็ต่างพากันเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกาย


แผนที่นัดกันมาได้ผลจริงๆ

ไม่เสียแรงที่เมื่อวานช่วยกันคิดทั้งวัน

คราวหน้าเอาอีกนะไอน้อง!

กลับไปเม้นให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่า 

วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558

What is GOOD LIFE?


บทความนี้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับช็อตฟิค 
MINO x HANBIN ชุด NOT BASE ON TRUE STORY 
เป็นเรื่องราวของแม่ฮันบิน สามารถอ่านเรื่องดังกล่าวได้ที่ 




ชีวิตที่ดีเป็นอย่างไร?


        คุณเคยตั้งคำถามนี้กับตัวเองบ้างไหม สำหรับฉัน ทุกครั้งที่ได้มองเห็นเงาตัวเองสะท้อนอยู่ในกระจก ประโยคนี้ก็จะแล่นขึ้นมาก้องอยู่ในโสตประสาททุกครั้ง หากแต่ฉันก็ยังไม่เคยหาคำตอบให้กับตัวเองได้สักทีแม้ว่าจะเฝ้าถามตัวเองซ้ำๆมาเกือบ40ปีแล้วก็ตาม

        ความสุขบางประการมาพร้อมกับการทำลายล้างครั้งยิ่งใหญ่ เปรียบดั่งไฟที่เผาหัวใจให้แหลกสลายกลายเป็นจุล

        คุณคงสงสัย ว่าฉันกำลังพูดถึงเรื่องอะไร...
        มาเถอะ ฉันจะเล่าทุกอย่างให้คุณฟังเอง


ขอโทษด้วยนะถ้ามันจะเป็นเรื่องราวที่ห่วยแตกไปสักหน่อย
แต่นี่ล่ะ คือชีวิตของฉัน จางฮันนา






นังฮันนา!!! ตื่นเดี๋ยวนี้นะ จะมุดหัวนอนอยู่ในผ้าห่มจนถึงกี่โมงกี่ยามห้ะ กลางค่ำกลางคืนออกไปแรดไหนต่อไหน ไม่คิดจะลุกขึ้นมาช่วยกันทำมากินบ้างหรือไง พี่สาวสองคนก็หายออกไผตามผู้ชาย มีลูกสาวสามคนไม่ได้ดีสักคน...


ปัง ปัง ปัง !!!


เสียงหญิงวัยกลางคนดังสลั่นสลับกับเสียงทุบประตูก้องไปทั่วบริเวณ เด็กสาวซึ่งนอนขดอยู่บนเตียงดิ้นไปมาด้วยความรู้สึกหงุดหงิด หล่อนปาหมอนไปที่พื้นอย่างหัวเสีย พลางลุกขึ้นนั่งแล้วแผดเสียงร้องหวังให้มารดาของตนสงบปากสงบคำ แม้จะรู้อยู่แล้วว่านอกจากจะไม่ได้ผลแล้วยังทวีความโมโหให้กับผู้เป็นแม่อีก
ดวงตากลมโตเหลือบมองนาฬิกาหัวเตียงเรือนเล็กที่บอกเวลาบ่ายโมงตรง ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อเบะบึ้ง พร้อมกับพึมพำคำสบถอย่างหักห้ามไม่ได้ ขาเรียวลุกขึ้นจากเตียง ปล่อยซากผ้าห่มกองโตและผ้าปูที่นอนซึ่งยับยู่ยี่ไว้อย่างนั้น ขยี้ผมสีน้ำตาลเข้มของตนจนยุ่งเหยิง คว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
ด้านหญิงวัยกลางคนผู้ที่ยังคงยืนโวยวายอยู่หน้าประตูได้ยินเสียงเปิดน้ำก็เงียบเสียงลงทันที เธอทุบประตูดังปังเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็เดินลงบันไดไปเพื่อที่จะไปขายของต่อ ความหงุดหงิดประดังประดาเข้ามาจนทำให้เธอไม่มีกระจิตกระใจต้อนรับลูกค้าคนใด แม้เหตุการณ์แบบนี้มักเกิดขึ้นแทบทุกวัน แต่เธอก็ไม่มีทีท่าที่จะชินชาหรือปล่อยวางเลยสักครั้ง

มันเป็นแบบนี้ ตั้งแต่สามีของเธอหนีหายไป...


อาบน้ำอะไรนานเป็นชั่วโมง แล้วนี่ทาปากแดงแปร๊ด จะออกไปร่านที่ไหนอีกล่ะ เสียงแหลมเริ่มหวีดโวยวายอีกครั้งเมื่อลูกสาวคนเล็กปรากฎกายให้เห็นตรงหน้า
เรื่องของหนู แม่อย่ามายุ่ง!” เด็กสาวตะคอกกลับอย่างไม่มีทีท่าว่าจะกลัว หล่อนเดินไปทางโต๊ะไม้ตัวเล็กๆที่มีกระป๋องคุ้กกี้เหล็กเก่าๆตั้งอยู่ เปิดมันออกแล้วหยิบเงินทั้งหมดซึ่งกระจัดกระจายอยู่ด้านในขยำแบบลวกๆแล้วเดินออกจากบ้านไป ทว่าไม่ทันจะพ้นขอบประตูข้อมือของหล่อนก็ถูกกระชากไว้
แกจะไปไหนห้ะ! แล้วจะเอาเงินไปไหนอีนังเด็กเวร!” ผู้ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นมารดาบีบข้อมือลูกสาวของตนเองแน่นราวกับจะหักกระดูกของหล่อนทิ้งเสีย น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยก็ยังคงดุดันเหมือนเคย
จะไปไหนก็เรื่องของหนู ปล่อยนะแม่!” จางฮันนาดิ้นสุดแรง ดวงตาเริ่มมีน้ำใสๆคลออยู่เพราะความเจ็บปวดที่ได้รับ ร่างบางพยายามขัดขืนการเกาะกุม แต่ไม่ว่าจะสะบัดเท่าไหร่แขนของเธอก็ไม่หลุดจากมารดาเสียที
วันๆใช้แต่เงิน ออกไปร่านแอ่นสะโพกให้ผู้ชายฟรีๆ โง่เหลือเกิน ถ้าคิดว่าเก่งนักก็ไปหาเงินเอง ใครเสียบเข้ามากี่ครั้งก็คิดเงินพวกมันโน่น จะมาปล้นอะไรกูนักหนา
        หุบปาก!!!” เด็กสาวกรีดร้องอย่างเดือดดาล ความรู้สึกหลายหลายเข้ามาในใจ แต่ที่แน่ๆไม่มีความรู้สึกดีๆหลงเหลืออยู่ คำพูดของมารดาทำร้ายหัวใจของหล่อนจนแทบจะล้มทั้งยืน มืออีกข้างที่ไม่ได้ถูกบีบไว้ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบเงินที่ยัดไว้ก่อนหน้าออกมาแล้วปาใส่หน้าผู้เป็นแม่จนปลิวว่อนไปหมด
        เอาเงินของมึงคืนไป...อีกระหรี่ผัวทิ้ง!”
เอ่ยประโยคนั้นเป็นประโยคสุดท้ายก่อนจะสะบัดมือแรงๆจนหลุด แล้วก้าวขาเดินฉับๆออกมาโดยที่ไม่สนใจคำพูดใดๆซึ่งลอยตามหลังมาอีก น้ำตามากมายไหลออกมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ท้องฟ้าค่อยๆมืดลงเรื่อยๆเพราะแสงของพระอาทิตย์ที่จมหายไปในดิน
เด็กสาวเดินมาเรื่อยจนเหนื่อย เธอทรุดตัวลงนั่งริมฟุตบาต คราบน้ำตายังคงแห้งกรังอยู่บนพวงแก้มสวย ริมฝีปากที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีแดงสดบัดนี้บวมเจ่อเพราะหล่อนขบเม้มมันมาตลอดทาง เธอถอนหายใจออกมายาวๆอย่างเหนื่อยใจ ลุกขึ้นยืนและหันหลังเดินกลับไปทางที่ตนเองจากมา

แม้จะต้องเสียศักดิ์ศรีแต่ก็ยอมรับเลยว่าเธอไม่มีที่ไหนให้ไปเมื่อไม่มีเงิน
ทางเดียวก็คือกลับบ้าน แม้ว่านั่นอาจเป็นนรกก็ตาม


เสียใจด้วยนะจางฮันนา ที่พระเจ้าไม่คิดจะใจดีกับเธอสักนิดเลย
เธอคงต้องถามพระองค์ดูให้ดีแล้วล่ะ ว่าทำไมพระองค์ถึงทรงรักมนุษย์แต่ละคน

ไม่เท่ากัน



เด็กสาวเติบโตขึ้นเรื่อยๆตามสภาพแวดล้อมที่ตนเองอยู่ 15 ปีล่วงผ่าน... ไม่มีทีท่าว่าอะไรๆจะเปลี่ยนแปลงไป เธอจะเริ่มเกลียดตัวเองขึ้นมาหน่อยๆแต่ก็ยังหาทางออกไม่ได้ สถานอโคจรอย่างผับ บาร์กลายเป็นบ้านที่อบอุ่นเสียยิ่งกว่าบ้านจริงๆ เธอรักแสงสี รักผู้คนที่ไปมาหาสู่ รักเครื่องดื่มมึนเมาที่ทำให้สติที่มีขาดหายไป


รักทุกสิ่งยกเว้นตัวเอง


กระทั่งคืนหนึ่งมีเด็กหนุ่มหน้าตาดีเข้ามาจีบ จางฮันนาไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรเพราะมันเป็นแบบนี้อยู่ตลอด คล้ายกับสัจธรรมที่ดอกไม้งามต้องตาต้องใจผู้พบเห็น แต่สิ่งที่ผู้ชายคนนี้ต่างไปจากคนอื่นคือเขาสั่งโซดาให้เธอแทนที่จะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

และไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายคนนี้แหละที่เป็นคนคะยั้นคะยอเธอให้เรียนให้จบและขอเธอแต่งงาน

จางฮันนาตอบตกลงและยินดีจะสร้างครอบครัวที่แสนสุข เธอไม่อยากให้มีเหตุการณ์บ้าๆอย่างที่เธอเคยเจอเกิดขึ้นซ้ำซ้อน เธอมั่นใจว่าผู้ชายคนนี้ดีพอที่จะไม่ทิ้งเธอไป ไม่ต้องรอนานในที่สุดเธอก็ให้กำเนิดลูกคนแรก 
คิมฮันบิน เด็กชายซึ่งเกิดขึ้นจากความรักอย่างแท้จริง เธอรักลูกชายคนนี้อย่างที่ไม่เคยรักใครและตั้งปณิธานว่าลกชายคนนี้จะต้องเติบโตขึ้นอย่างดี กระทั่งอีกสี่ปีถัดมาเด็กผู้หญิงที่เกิดมาพร้อมกับความสดใสถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกคิมฮันบยอล
ชีวิตครอบครัวของเธอสมบูรณ์แบบ ใครๆก็ต่างอิจฉาชีวิตของหล่อนเพราะมีทั้งเงิน มีสามีที่ดี มีลูกๆที่น่ารัก แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็เป็นคนทำลายทุกสิ่งด้วยมือของตัวเอง ทำลายคนที่รักและไว้ใจฉันจนแหลกสลายไม่มีชิ้นดี


จางฮันนามีชู้

ในบ้านที่อาศัยอยู่กับสามี


มันไม่ใช่ความตั้งใจ แต่ก็บอกไม่ได้ว่าเป็นแค่ความบังเอิญ ผู้ชายคนนี้เจอเธอเพียงแค่ไม่กี่ครั้ง พวกเขาแอบมีอะไรกันครั้งแรกบนรถ น่าแปลกที่มันทำให้ฮันนารู้สึกดีจนไม่อาจห้ามใจไหว เพราะงั้นมันเลยมีครั้งต่อๆไปเกิดขึ้น
แย่หน่อยที่ครั้งนี้หล่อนไม่โชคดีอีกแล้ว...


เธอลืมไปเสียสนิทว่ามันเป็นวันเกิดของตัวเอง ครอบครัวที่น่ารักแอบกลับมาที่บ้านเพื่อเตรียมเซอไพรส์ให้ แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในห้องนอนที่พวกเขาเคยขึ้นไปกระโดดเล่นบนเตียงกัน

เด็กชายคิมฮันบินวิ่งขึ้นมาหาแม่ด้วยความคาดหวังว่าเธอจะต้องดีใจ แต่แล้วภาพบางสิ่งที่ไม่ควรเห็นก็ตราตรึงอยู่ตรงหน้า
แม่ที่แสนดีของเขากำลังร่วมรักกับชายแปลกหน้า


บนเตียงที่เขาใช้กระโดดเล่นนั่นแหละ...


สามีที่เดินมาตามทางเดินพร้อมกับเค้กยิ้มกว้างเพราะรู้ดีว่าภรรยาต้องมีความสุขแค่ไหน แต่แล้วเขาก็ต้องชักงักเมื่อได้ยินเสียงแห่งความสุขยิ่งกว่า

เสียงครางแห่งความสุขสมที่เขาไม่ได้เป็นคนสร้าง
มันช่างน่าขยะแขยง

ชีวิตคู่ของจางฮันนาจบลงวันนั้น เธอไม่กล้าไปสู้หน้าใครได้อีก ยิ่งพอได้รู้ว่าฮันบินเห็นเหตุการณ์ด้วยตัวเองความรู้สึกผิดปนกับความอับอายยิ่งถาโถมเข้ามาในใจ สุดท้ายจึงต้องไปอยู่กับชายแปลกหน้าคนนั้นแม้จะยังรักสามีและลูกมากก็ตาม ที่บ้านหลังใหม่เธอพบกับเด็กชายที่น่าสงสาร ซงมินโฮ
เธอบอกกับตัวเองว่าจะชดเชยความผิดของตัวเองโดยการเลี้ยงเด็กคนนี้ให้ดี เพราะเธอมั่นใจแล้วว่าสามีเก่าจะสามารถเลี้ยงฮันบินและฮันบยอลได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง


แม่ขอโทษนะฮันบิน ฮันบยอล...
แม้ว่าแม่ไม่อาจจะหาคำตอบได้ว่าชีวิตที่ดีเป็นอย่างไร
และแม่ทำลายชีวิตที่ดีของลูกไปครึ่งหนึ่งแล้ว
แต่เมื่อลูกเติบโตขึ้น จงอย่าเดินหลงทางเหมือนกับแม่
และหาคำตอบให้ได้...


ว่า ชีวิตที่ดีเป็นอย่างไร